PropertyValue
rdfs:label
  • Amazon Therapy
rdfs:comment
  • You can use the box below to create new pages for this mini-wiki. preload=Amazon Therapy/preload editintro=Amazon Therapy/editintro width=25 นิวยอร์ก ต้นเดือนมีนาคม มองออกไปนอกหน้าต่างจากห้องพักชั้นล่างสุดของตึก ปุยหิมะขาวกำลังโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าตกลงมากองเป็นเป็นกองขาวอยู่ทั่วท้องถนน ที่ถนนไม่มีใครเดินสักคนเดียวคงเพราะเป็นเวลาเช้าอยู่ อากาศในยามนี้นั้นหนาวเหน็บ จนผู้คนต้องคิดเป็นครั้งที่สองก่อนตัดสินใจออกนอกบ้าน อีกครู่ใหญ่ ปุยหิมะบางเบาค่อยหายไป คล้ายฝนเม็ดใหญ่กลายเป็นละอองฝนเม็ดเล็ก ประตูเข้ามหาวิทยาลัยที่สามารถมองเห็นได้ชัดจากหน้าต่างบานเดียวกันเริ่มเปิดต้อนรับนักเรียนบ้างแล้ว คราวนี้ผู้คนแต่งตัวกันรัดกุมเต็มอัตรา ดูเหมือนว่าเสื้อหนาหลายชั้นดูเทอะทะ ผ้าพันคอยาวสีสันสดใส หมวกคลุมหัวเหลือแต่เพียงหน้า และถุงมือที่มักสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเป็นสิ่งจำเป็นของคนที่ต้องออกจากบ้านในเวลานี้
dbkwik:scratch-pad/property/wikiPageUsesTemplate
dbkwik:scratchpad/property/wikiPageUsesTemplate
abstract
  • You can use the box below to create new pages for this mini-wiki. preload=Amazon Therapy/preload editintro=Amazon Therapy/editintro width=25 นิวยอร์ก ต้นเดือนมีนาคม มองออกไปนอกหน้าต่างจากห้องพักชั้นล่างสุดของตึก ปุยหิมะขาวกำลังโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าตกลงมากองเป็นเป็นกองขาวอยู่ทั่วท้องถนน ที่ถนนไม่มีใครเดินสักคนเดียวคงเพราะเป็นเวลาเช้าอยู่ อากาศในยามนี้นั้นหนาวเหน็บ จนผู้คนต้องคิดเป็นครั้งที่สองก่อนตัดสินใจออกนอกบ้าน อีกครู่ใหญ่ ปุยหิมะบางเบาค่อยหายไป คล้ายฝนเม็ดใหญ่กลายเป็นละอองฝนเม็ดเล็ก ประตูเข้ามหาวิทยาลัยที่สามารถมองเห็นได้ชัดจากหน้าต่างบานเดียวกันเริ่มเปิดต้อนรับนักเรียนบ้างแล้ว คราวนี้ผู้คนแต่งตัวกันรัดกุมเต็มอัตรา ดูเหมือนว่าเสื้อหนาหลายชั้นดูเทอะทะ ผ้าพันคอยาวสีสันสดใส หมวกคลุมหัวเหลือแต่เพียงหน้า และถุงมือที่มักสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเป็นสิ่งจำเป็นของคนที่ต้องออกจากบ้านในเวลานี้ ฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่ผมเกลียดที่สุด อากาศหนาวเหน็บเช่นนี้ชวนคิดถึงบ้าน คิดถึงทุกอย่างที่เมืองไทย นี่เป็นปีที่สองแล้วที่ต้องมาเผชิญกับฤดูหนาว ช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ระหว่างเดินกลับบ้าน ที่พื้นถนนมีแอ่งน้ำที่ถูกความเย็นจนกลายเป็นก้อนน้ำแข็งบางๆ ที่มองดูใสจากด้านบน เมื่อเหยียบลงไปโดยไม่ตั้งใจ ก็แทบจะลื่นล้มไปข้างหน้า ใจคิดว่าทำไมโชคชะตาถึงได้กลั่นแกล้งกันถึงเพียงนี้ ดูสิดู มาเรียนหนังสือหนักและเครียด ยังต้องมาลื่นล้มในช่วงเวลาที่โศกเศร้าเหงาหงอยจนน้ำตาปริ่มล้นออกมากระทบแก้ม ผมเดินทางมาถึงมหานครนิวยอร์กตั้งแต่สองปีก่อน มาพร้อมกับความหวังของตัวเองและคนรอบข้างเพื่อไขว่คว้าความสำเร็จการศึกษาอันจะเป็นบันไดไปสู่ความก้าวหน้าในการทำงาน ช่วงเวลาที่มาเรียนต่อของเพื่อนหลายคนเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข ชีวิตทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนเป็นชีวิตที่อิสระ มีเสรีภาพทั้งทางความคิดและการกระทำ ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยได้ทำ ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยได้เห็น ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ นอกจากนี้ หลายคนยังได้ใช้ชีวิตในดินแดนที่โอกาสทางเศรษฐกิจนั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง จะมองไปทางไหนก็มีช่องทางหาเงินและช่องทางใช้เงิน หลายคนทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย รายได้ต่อวันนั้นคิดเกือบเท่ากับทำงานที่เมืองไทยทั้งเดือน ใครเล่าจะไม่มีความสุข ชีวิตในฝันของหลายๆ คนกลับเป็นชีวิตที่เหงาหงอยและหดหู่ แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นช่วงชีวิตหนึ่งที่มีคุณค่าและน่าจดจำ การเรียนหนังสือหนักหนาสาหัส ต้องทำการบ้านอ่านหนังสือ เต็มไปด้วยความเครียด แถมเวลาว่างที่จะหาความร่าเริงก็มีน้อย ตื่นเช้ามาเข้าห้องเรียน เรียนเสร็จอ่านหนังสือ ทำการบ้าน พักสมองด้วยการท่องโลกอินเตอร์เน็ต และคุยกับเพื่อนผ่านคอมพิวเตอร์ วันหยุดตื่นขึ้นมากิจวัตรแบบเดิม หากเป็นที่เมืองไทย คงได้ออกไปพบปะเพื่อนฝูงกลุ่มโน้นกลุ่มนี้ หรือมีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะจะลืมเหงาแน่ การที่ห้องพักอยู่ใกล้โรงเรียน เดินห่างกันไม่ถึงสามนาทีเพียงแค่ข้ามถนน อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าชีวิตหดหู่และเบื่อหน่ายไปกับการเรียน เป็นไปได้ว่าพอที่พักอยู่ใกล้ก็ทำให้รู้สึกว่าต้องอยู่โรงเรียนและมีกิจกรรมเดิมๆ อยู่ตลอดเวลา ทีแรกนึกว่าจะเป็นโอกาสดี ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง แต่พอไม่ได้เดินทางขึ้นรถเมล์รถไฟก็ทำให้รู้สึกเหมือนกลับมาสู่โรงเรียนประจำใหม่ แต่วันไหนนอนดึกแล้วนอนเพลินตื่นก่อนเวลาเข้าเรียนเพียงห้านาที ก็สามารถรีบแปรงฟันแล้ววิ่งไปห้องเรียนทันอาจารย์สอน หรือพอเรียนจบหนึ่งวิชาก็กลับมาพักผ่อนสักชั่วโมงสองชั่วโมงแล้วค่อยกลับไปโรงเรียนใหม่ก็ได้ ข้อดีของบ้านใกล้โรงเรียนเห็นจะมีอยู่เพียงเท่านี้ เวลาที่ได้ออกจากบ้านข้างนอกจึงทำให้รู้สึกตื่นเต้นมีความสุข สังเกตตัวเองว่ามักจะรู้สึกดีเมื่อได้นั่งรถไฟลงไปในตัวเมือง เวลาเหงาๆ ผมจึงชอบที่จะนั่งรถไปกินข้าวที่ไชน่าทาวน์คนเดียว บางครั้งก็ไปร้านขายสัตว์เลี้ยง สวนสัตว์ หรือร้านหนังสือ หากมีเงินมากกว่านี้ ไม่ได้เป็นนักเรียนที่ต้องกระเหม็ดกระแหม่ทางการเงิน ก็คงจะเฮฮากับเมืองหลวงแห่งการชอปปิ้งเช่นนิวยอร์กเป็นแน่ ผมบ่นถึงนิวยอร์กจนดูเหมือนว่าเมืองนี้ไม่มีอะไรดี เพราะนิวยอร์กเป็นบ้าน แต่จริงๆ แล้วคงมิใช่อย่างนั้นเสียทั้งหมด ขอให้เข้าใจว่านิสัยของคนเรามักบ่นถึงสิ่งใกล้ตัว โดยเฉพาะสิ่งที่เห็นอยู่เป็นประจำ กิจกรรมที่ทำเป็นนิจ หรือสภาพแวดล้อมที่เห็นอยู่ทุกวี่ทุกวัน ผมเชื่อว่าความรู้สึกเช่นนี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนออกเดินทางท่องเที่ยว การไปในที่ต่างถิ่นย่อมสร้างความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ ได้เห็นในสิ่งแปลกใหม่ ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ อะไรที่เราไม่ได้ อะไรที่เราไม่มี มักจะเป็นสิ่งที่โหยหาอยากได้อยากมี เป็นสัจธรรมที่ครอบครองจิตใจของหลายๆ คน การเดินทางออกไปจากนิวยอร์กสักพักน่าจะเป็นยาวิเศษช่วยบำบัดจิตใจของคนขี้เหงาอย่างผมได้บ้าง